1. เลโอนิน (Leonin ประมาณ 1130-1180) เป็นผู้ควบคุมวงขับร้องประสานเสียงของกลุ่มนอเตอร์ เดมณ กรุงปารีส
เขารวบรวมเพลงออร์แกนนั่ม ซึ่งเป็นเพลงโบสถ์ในพิธีต่าง ๆ
ตลอดทั้งปีไว้ในหนังสือชื่อ “Great Book of Organum” บางครั้งชื่อของเลโอนินเรียกเป็นภาษาละตินว่า
“ลีโอนินัส”
2. เพโรติน (Perotin หรือ Perotinus Magnus ประมาณ 1160-1220) เป็นผู้ควบคุมวงนักร้องประสานเสียงและผู้ประพันธ์เพลงของกลุ่มนอเตอร์
เดม ณ กรุงปารีส เป็นรุ่นน้องของเลโอนิน ทั้งคู่เป็นผู้บุกเบิกรูปแบบการประพันธ์เพลงแบบการสอดประสานทำนอง
ทั้งเลโอนินและเพโรติน เป็นผู้ประพันธ์เพลงในสมัยศิลป์เก่า
ซึ่งเป็นแนวการประพันธ์แตกต่างจากสมัยศิลป์ใหม่
3. จาคาโป ดา โบโลนญา (Jacapo da Bologna) เป็นผู้ประพันธ์เพลงที่สร้างรูปแบบให้กับสมัยศิลป์ใหม่คนสำคัญคนหนึ่ง
ในช่วงที่เขาอยู่ในกรุงมิลานได้ผลิตผลงานมากมาย ได้แก่ เพลงมาดริกาล 30 บท คาทชา (Caccia) 1 บท และโมเต็ต 1 บทนอกจานี้ยังประพันธ์เพลงลาอูเด (Laude) ซึ่งเป็นเพลงสำคัญของชาวอิตาเลียนแบบหนึ่ง
จาคาโปเป็นผู้ประพันธ์เพลงที่พยายามพัฒนารูปแบบของเพลงแบบการสอดประสานทำนองคนสำคัญของอิตาลี
ผลงานของจาคาโปมีจุดเด่นที่แนวทำนองที่เด่นชัดแสดงออกถึงจินตนาการ
การใช้จังหวะในลักษณะต่าง ๆและการเคลื่อนที่ไปของแนวเสียงต่าง ๆ
ที่ไม่ขึ้นแก่กันในลักษณะของความกลมกลืน
4. แลนดินี (Francesco Landini ประมาณ 1325-1397) ผู้ประพันธ์เพลงและนักออร์แกนเป็นบุตรของจิตรกร
แลนดินีตาบอดมาตั้งแต่เด็กจึงหันมาศึกษาดนตรีมีชื่อเสียงในฐานะ
นักออร์แกนที่สามารถเล่นได้อย่างไพเราะเต็มไปด้วยเทคนิคซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังทั่วไป
แนวการประพันธ์ของแลนดินีมีลักษณะของความเป็นตัวของตัวเองมาก
การถ่ายทอดอารมณ์ในเพลงมีมากกว่าผู้ประพันธ์เพลงสมัยก่อนหน้าเขา บทเพลงร้องหลายแนว
ประเภทเพลงคฤหัสถ์มีชื่อเสียงและเป็นต้นกำเนิดของเพลงมาดริกาลของสมัยศิลป์ใหม่ แลนดินีจัดเป็นผู้ประพันธ์เพลงที่มีผลงานมากมาย
หนึ่งในสามของบทเพลงที่ผู้ประพันธ์เพลงชาวอิตาเลียนประพันธ์ไว้ในสมัยนี้เป็นบทประพันธ์เพลงของแลนดินี
5. มาโชท์ (Guillaume de Machaut, ประมาณ 1300-1377) ผู้ประพันธ์เพลงสำคัญในสมัยศิลป์ใหม่ มาโชท์เป็นพระชาวฝรั่งเศส
เพลงที่ประพันธ์ส่วนใหญ่จึงเป็นเพลงโบสถ์โดยเฉพาะเพลงแมสของมาโชท มีชื่อเสียงมาก
นอกจากนี้มาโชท์ยังมีผลงานเพลงคฤหัสถ์จำนวนหนึ่งด้วย ผลงานของมาโชท์เต็มไปด้วยความประณีตในการใช้รูปแบบของการสอดประสานทำนอง(ณรุทธ์ สุทธ์จิตต์,2535 :136-140)